วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553

FAQ กับ Seo

1. ทำไมต้องทำการตลาดผ่าน Search Engine
Search Engine เป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนอินเตอร์เน็ตได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาแบบ Online อย่างป้ายโฆษณา (Banner) และสื่อ Offlineอย่างโทรทัศน์และป้ายโฆษณาทั่วไป เมื่อเปรียบเทียบในแง่การแสดงผลและจำนวนของผู้ที่จะได้เห็นป้ายโฆษณาเหล่านั้น Search Engineกลับมีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว


2. การทำ Search Engine Optimization คืออะไร
Search Engine Optimization (SEO) คือกระบวนการขั้นตอนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับผลการค้นหาของ Search Engineแต่ละแห่ง จน Search Engine จัดอันดับเว็บไซต์ให้อยู่ในอันดับต้นๆของการแสดงผลการค้นหาจากคำค้นหา (Keywords) ที่ต้องการได้ด้วยขั้นตอนดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดโดยอาศัยประสบการณ์และความสามารถในการดำเนินการของผู้ที่ให้บริการ


3. อันดับ 1-10 ส่งผลดีกับธุรกิจอย่างไร
ธรรมชาติของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต มักนิยมเข้าชมเว็บไซต์เฉพาะ 10 หรือ 20อันดับแรกจากที่แสดงในผลการค้นหาของ Search Engineด้วยเหตุนี้ทำให้เว็บไซต์ที่มีอันดับต้นๆในผลการค้นหามีผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนมากส่งผลให้เกิดการซื้อขายหรือใช้บริการเพิ่มขึ้นเพราะผู้เข้าชมเหล่านั้นอาจกำลังมองหาสิ่งที่เขาต้องการอยู่นั้นเองส่งผลให้ เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-10จึงมีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมากจากผู้ที่ทำการค้นหา


4.ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน เพื่อให้ติดอันดับ 1-10
ระยะเวลาในการทำให้ติดอันดับปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 6เดือน (คำค้นหาบางคำ ที่มีผู้แข่งขันจำนวนมาก เช่นคำค้นหา “Bangkok hotel”ซึ่งอยู่ในหมวดการท่องเที่ยว อาจต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 2ปี) แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายๆ องค์ประกอบทั้งนี้ต้องทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็น ก่อนเริ่มการดำเนินการ


5. Pay Per Click (PPC) คืออะไร
Pay Per Click (PPC)คือบริการโฆษณาออนไลน์แนวใหม่ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่งโฆษณาจะปรากฎในหน้าแสดงผลการค้นหาของ SearchEngineผู้ลงโฆษณาจะเสียค่าบริการก็ต่อเมื่อมีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตคลิกโฆษณาเพื่อเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณารเท่านั้นแต่ถ้าผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต เพียงแค่ชมโฆษณาของเว็บไซต์โดยไม่ได้คลิกเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณาก็ไม่ต้องเสียค่าบริการแต่อย่างใด


6. เมื่อไหร่ที่โฆษณาจะปรากฏบน Search Engine
โฆษณาจะปรากฎบน Search Engine ไม่เกิน 1 วัน


7. สามารถทำ PPC ควบคู่ไปกับการทำ SEO ปกติได้หรือไม่
สามารถทำคู่กันได้แน่นอนและเป็นสิ่งที่แนะนำให้ทำควบคู่กันไปด้วยเหตุผลที่ว่าการทำ SEO นั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรที่จะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Search Engine ได้ดังนั้นในระหว่างที่รอเว็บไซต์ติดอันดับ ก็ควรจะทำการโฆษณาเว็บไซต์ผ่านทางPPCไปก่อน เพื่อให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ในทันที


8. จะต้องเสียค่าโฆษณาอย่างไร
การทำ PPC จะเสียค่าโฆษณาให้กับ Search Engineก็ต่อเมื่อมีคนคลิกผ่านโฆษณาของเราและเข้ามายังเว็บไซต์ของเราเรียบร้อยแล้วเท่านั้น หากไม่มีคนคลิกก็จะไม่เสียค่าโฆษณาแต่อย่างใด

ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก http://www.netdesignrank.com

วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

หัวข้อที่พูดๆ ไป มีดังนี้
เนื้อหาการสัมมนา
• Twitter คืออะไร
• ศัพท์, เทคนิค, สัญลักษณ์ การใช้ Twitter
• การสร้างเครือข่ายบน Twitter (การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก)
• Twitter กับการสร้างความสัมพันธ์ลูกค้า
• กรณีศึกษาและวิเคราะห์กลยุทธ์ธุรกิจเชิงปฏิบัติการบน Twitter
• การเชื่อมโยง Twitter กับ Web Social Network ต่างๆ ในการทำงานเชิงธุรกิจ
• หลักเกณฑ์การ Tweet ข้อความให้ประสบความสำเร็จ
• กรณีศึกษาธุรกิจที่ประสบความสำเร็จผ่าน Twitter
ก่อนเวลา เริ่มงานเล็กน้อย
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
พิธีกร มากล่าวเปิดงาน พร้อมกับ แนะนำ วิทยากรทั้ง 2 ให้ผู้เข้าร่วมฟัง สัมมนา รู้จัก
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
บรรดา ผู้เข้าร่วมฟังสัมมนา น่ารักมาก กระดาษ ปากกาพร้อม
จดไป ก็อมยิ้ม กับมุข ที่วิทยากร ยิงออกมา
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
วิทยากร ตอบคำถามผู้เข้าร่วมสัมมนา
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
แอบถ่ายจากด้านหลัง ^^
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
วิทยากร เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ ที่เกิดขึ้นจริงใน Twitter เพื่อ ใช้เป็นแนวคิด และ ไอเดีย ใหม่ๆ
(คลิ๊กที่รูป เพื่อดู รูปใหญ่)
ขอขอบคุณ ผู้เข้าร่วม สัมมนาทุกท่าน ที่ให้ ความร่วมมือเป็นอย่างดี หวังว่า คราวหน้า คงได้มีโอกาส ร่วมสัมมนา อีก
วิทยากรทั้ง 2
ศุภฤกษ์ ลือรุ่งโรจน์วุฒิ (พี่ตี๋)
Online Marketing Specialist
เชษฐชัย งามภัทรวรกุล
Social Media Marketer
จาก NetDesignRank : http://www.netdesignrank.com

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

PPC คืออะไร ?

PPC คืออะไร ?

PPC ย่อมาจาก Pay Per Click คือบริการโฆษณาออนไลน์แนวใหม่ที่สามารถเข้าถึง

กลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่งโฆษณาจะปรากฎในหน้า

แสดงผลการค้นหาของ Serch Engine ผู้ลงโฆษณาจะเสียค่าบริการก็ต่อเมื่อมี

ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตคลิกโฆษณา เพื่อเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณารเท่านั้น

แต่ถ้าผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต เพียงแค่ชมโฆษณาของเว็บไซต์ โดยไม่ได้คลิกเข้า

ชมเว็บไซต์ของ ผู้ลงโฆษณาก็ไม่ต้องเสียค่าบริการแต่อย่างใด

**เป้าหมายของ บริการ Pay Per Click คือ เพิ่มผู้เข้าชมเว็บไซต์กลุ่มเป้าหมาย

อย่างรวดเร็ว และคุ้มค่า เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ**

จุดเด่นในการทำ Pay Per Click (PPC)

รวดเร็ว : โฆษณาจะปรากฎในหน้าแรกของเว็บไซต์ที่ให้บริการด้าน Search Engine

ได้แก่ Google , Yahoo และ MSN ภายในเวลาเพียง 15 นาที

เพิ่มโอกาส : เมื่อผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเห็นโฆษณา และคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของท่าน

เป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของท่านให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรงและ

ยังเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายทางธุรกิจอย่างมหาศาลอีกด้วย

คุ้มค่า : ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงิน เมื่อมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของท่านเท่านั้น

ชัดเจน : ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แน่นอน อาทิ ประเทศ

และช่วงระยะเวลาที่ต้องการให้โฆษณาของท่านปรากฎ

ควบคุมได้ : ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดงบประมาณที่แน่นอน ในการโฆษณาได้เป็นรายเดือน

และลูกค้าจะไม่มีทางเสียค่าใชจ่ายเกินกว่างบโฆษณาที่กำหนดไว้

ยืดหยุ่นสูง : สามารถปรับเปลี่ยน Keyword และแคมเปญโฆษณาได้บ่อยครั้ง

ตามต้องการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากค่าวิเคราะห์

และค่าดูแลระบบเท่านั้น

วัดผลได้ง่าย : ผู้ลงโฆษณาสามารถวัดและติดตามผลได้ทันที สามารถเข้าไปดูสถิติ

ว่ามีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเห็นโฆษณาจำนวนเท่าไร มีคนคลิกโฆษณาเท่าไร อันดับของโฆษณา

โฆษณาของท่าน จะปรากฎอยู่ตำแหน่งใดในเว็บไซต์ Search Engine ?

บริการ Pay Per Click ของ Search Engine ที่มีผู้ใช้บริการสูงสุด 3 อันดับแรกของโลก

ได้แก่ Google , Yahoo และ MSN โดยโฆษณาของท่าน จะปรากฎอยู่ในตำแหน่ง ผู้สนับสนุน (Sponsored Links) ดังนี้

http://www.netdesignrank.com

SEO คืออะไร ?

SEO คืออะไร ?

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization ซึ่ง คือการปรับแต่เว็บไซด์ ในแบบต่างๆเช่น

Keyword , การออกแบบหน้าเว็บ และ Code คำสั่งต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ล้วนมีผลต่อ

Search Engine ทั้งนั้น และเพื่อให้ติดอันดับของ Search Engine จึงจำเป็นที่จะต้องทำ

SEO ยังไงหละครับ

Search Engine คืออะไร?

Search Engine เป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเป็นเครื่องมือในการค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต

ที่ทุกคนสามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวก เพียงกรอกคำค้นหา (keyword)โดยผู้ให้บริการ

Search Engine จะรวบรวมข้อมูลรายชื่อเว็บไซต์ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่างๆของเว็บไซต์

โดยนำมาจัดเก็บไว้ใน server เพื่อให้สามารถค้นหาและแสดงผลได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

เมื่อมีคนป้อนคำค้นหา (keyword) ทาง Search Engine ก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่คิดว่าถูกต้อง

ใกล้เคียง คำค้นหา (keyword) ขึ้นมา ตัวอย่าง Search Engine

ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น

google.com , yahoo.com , msn.com และ sanook.com เป็นต้น

Search Engine เป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

บนอินเตอร์เน็ตได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาแบบ Online อย่างป้ายโฆษณา(Banner)

และสื่อ Offline อย่างโทรทัศน์และป้ายโฆษณาทั่วไป เมื่อเปรียบเทียบในแง่การแสดงผล

และจำนวนของผู้ที่จะได้เห็นป้ายโฆษณาเหล่านั้น Search Engine กลับมีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา

ที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว ดังนี้แล้วหากต้องการที่จะเพิ่มช่องทางการตลาด เพิ่มยอดขาย

เพิ่มอัตราผู้เข้าชมเว็บไซต์ควรจะต้องทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นติดอันดับอยู่ใน 10 อันดับแรก

ของผลการค้นหา ในทุกครั้งที่มีการค้นหาจากคำค้นหา (keyword) ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า

หรือบริการของเว็บไซต์เราดังนั้นการทำ Search Engine Optimization (SEO) ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก

สำหรับเว็บไซต์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต

เพราะผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเหล่านี้จะสามารถเข้าถึง และรู้จักเว็บไซต์ของเราได้ง่ายมากขึ้น

และยังแน่ใจได้ว่า เว็บไซต์ของเราคุ้มค่ากับทุกๆ การลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ

SEO เพราะสามารถติดตามและตรวจสอบผลการดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างชัดเจน

และเราจะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากในอนาคต

จุดเด่นในการทำ Search Engine Optimization (SEO)

ประสิทธิภาพสูง : ทำให้มีผู้เข้าเว็บไซต์ของท่านมากขึ้น เพราะผู้ใช้ Search Engine

ประมาณ 95% จะนิยมคลิกเฉพาะเว็บไซต์ที่ปรากฏใน 2 หน้าแรกเท่านั้น

เพิ่มความน่าเชื่อถือ : เนื่องจากผลลัพธ์ของการค้นหา จะปรากฎในตำแหน่งทางซ้ายมือ

หรือเป็นตำแหน่งของผลการค้นหาธรรมชาติ ที่จะได้เปรียบมากกว่า

ตำแหน่งผู้สนับสนุนทางด้านขวามือ ซึ่งเพิ่มความเชื่อถือให้กับลูกค้า

ว่าเว็บไซต์ของท่านได้รับความนิยมอย่างสูง ในเว็บ Search Engine นั้น

ตรงกลุ่มเป้าหมาย : การทำ SEO นั้น จะส่งผลให้เว็บไซต์ของท่าน

ได้รับการโฆษณาตรงตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง

เพราะการเลือกคำค้นหา (Search Keyword) จะทำให้เว็บไซต์ของท่าน

จะปรากฎเมื่อมีผู้สนใจในสินค้า และบริการประเภทนั้น ซึ่งมีความต้องการที่จะซื้อ

หรือใช้บริการ ณ เวลานั้นด้วย

เพิ่มโอกาส : เมื่อมีคนเห็นเว็บไซต์ของท่านเพิ่มขึ้น นอกจากเป็นการประชาสัมพันธ์

ธุรกิจของท่านให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง ยังเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายทาง

ธุรกิจอย่างมหาศาลอีกด้วย

ประหยัด และคุ้มค่า : เมื่อเทียบกับการโฆษณา ประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทีวี , วิทยุ ,

หนังสือพิมพ์ , นิตยสาร และการโฆษณาแบนเนอร์ในเว็บไซต์ นั้น วิธี SEO ถือว่าประหยัด

และคุ้มค่าที่สุด เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ในแง่ของธุรกิจ

เว็บไซต์ของท่าน จะปรากฎอยู่ตำแหน่งใดในเว็บไซต์ Search Engine ?

การทำ SEO นั้น จะเน้นให้ผลของคำค้นหา (Search Keyword) ปรากฏอยู่ในส่วนของ

“ผลการค้นหาธรรมชาติ” (Natural Search Result หรือ Organic Search Result)

ซึ่งจะแสดงอยู่ในส่วนของผลลัพธ์ทางด้านซ้ายมือของเว็บ Search Engine นั่นเอง ดังรูป

คำถามที่พบบ่อย

1. ทำไมต้องทำการตลาดผ่าน Search Engine

Search Engine เป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

ทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบนอินเตอร์เน็ตได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับสื่อโฆษณาแบบ

Online อย่างป้ายโฆษณา (Banner) และสื่อ Offline อย่างโทรทัศน์และป้ายโฆษณาทั่วไป

เมื่อเปรียบเทียบในแง่การแสดงผล และจำนวนของผู้ที่จะได้เห็นป้ายโฆษณาเหล่านั้น

Search Engine กลับมีค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาที่ถูกกว่าหลายเท่าตัว

2. การทำ Search Engine Optimization คืออะไร

Search Engine Optimization (SEO) คือกระบวนการขั้นตอนการปรับแต่งเว็บไซต์

เพื่อให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับผลการค้นหาของ Search Engine

แต่ละแห่ง จน Search Engine จัดอันดับเว็บไซต์ให้อยู่ในอันดับต้นๆ

ของการแสดงผลการค้นหาจากคำค้นหา (Keywords) ที่ต้องการได้

ด้วยขั้นตอนดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด

โดยอาศัยประสบการณ์และความสามารถในการดำเนินการของผู้ที่ให้บริการ

3. อันดับ 1-10 ส่งผลดีกับธุรกิจอย่างไร

ธรรมชาติของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต มักนิยมเข้าชมเว็บไซต์เฉพาะ 10 หรือ 20 อันดับแรก

จากที่แสดงในผลการค้นหาของ Search Engine ด้วยเหตุนี้ทำให้เว็บไซต์ที่มีอันดับต้นๆ

ในผลการค้นหา มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการซื้อขายหรือใช้บริการเพิ่มขึ้น

เพราะผู้เข้าชมเหล่านั้นอาจกำลังมองหาสิ่งที่เขาต้องการอยู่นั้นเอง ส่งผลให้

เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1-10 จึงมีผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมากจากผู้ที่ทำการค้นหา

4.ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน เพื่อให้ติดอันดับ 1-10

ระยะเวลาในการทำให้ติดอันดับปกติแล้วจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 6 เดือน

(คำค้นหาบางคำ ที่มีผู้แข่งขันจำนวนมาก เช่นคำค้นหา “Bangkok hotel”

ซึ่งอยู่ในหมวดการท่องเที่ยว อาจต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 2 ปี)

แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายๆ องค์ประกอบ ทั้งนี้ต้องทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็น

ก่อนเริ่มการดำเนินการ


http://www.netdesignrank.com